newsupdate

3 เทรนด์ที่จะขับเคลื่อนการซื้อขายบนโซเชียลในปี 2022

3 เทรนด์ที่จะขับเคลื่อนการซื้อขายบนโซเชียลในปี 2022

วิธีที่คนเราเลือกซื้อสินค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การช้อปปิ้งผ่านสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมสูงเป็นประวัติการณ์ โดย 41% ของผู้บริโภคกล่าวว่า ตนเลือกซื้อสินค้าผ่านทางมือถือหรือสมาร์ทโฟนเป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์ เทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้วซึ่งมีเพียง 12% เท่านั้น นอกจากนี้ การซื้อขายบนโซเชียลก็เติบโตเช่นเดียวกัน โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียในสหรัฐฯ เกือบครึ่งหนึ่ง (48%) เลือกซื้อสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เมื่อแบรนด์และผู้บริโภคเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อขายบนโซเชียลมากขึ้น วันนี้เราจะมาอธิบาย 3 เทรนด์ที่จะกำหนดทิศทางการซื้อขายสินค้าในปี 2022 ให้คุณทราบกัน

คอมมูนิตี้และครีเอเตอร์ยังคงมอบแรงบันดาลใจให้เหล่านักช้อปต่อไป

ผู้คนมีทางเลือกที่หลากหลายในการเลือกแบรนด์หรือสินค้ามากกว่ายุคไหนๆ และความไว้วางใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อ เราจึงมักหาแรงบันดาลใจจากเพื่อนฝูง ครอบครัว ครีเอเตอร์ และคอมมูนิตี้ที่เราไว้วางใจ เทรนด์นี้จะยังคงเติบโตต่อไปในปี 2022 ซึ่งเมื่อการซื้อขายบนโซเชียลเติบโตมากขึ้น ผู้ค้าปลีกและแบรนด์จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างฐานลูกค้าที่ภักดี รวมไปถึงผู้ที่คอยสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ที่มักจะแบ่งปันคำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าอย่างจริงใจกับเพื่อนๆ และแฟนๆ ของตนเอง โดยเราคาดว่าจะได้เห็นการลงทุนอย่างต่อเนื่องของทั้งอุตสาหกรรมในการสร้างคอมมูนิตี้ของลูกค้าที่ภักดีบนโลกออนไลน์ในปีที่จะถึงนี้

H-E-B ธุรกิจเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตจากรัฐเท็กซัสได้ใช้ฟีเจอร์ "ไลฟ์ช้อปปิ้ง" เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อขายบนโซเชียลที่เป็นกันเอง ราบรื่นไม่มีสะดุด และเป็นประโยชน์แก่ลูกค้า โดยธุรกิจรายนี้สามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและความไว้วางใจกับลูกค้าได้ด้วยการโต้ตอบกับพวกเขา นำคำติชมไปปรับปรุงเพื่อนำเสนอสินค้าและคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ตลอดจนให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าในการพบกับอินฟลูเอ็นเซอร์ที่พวกเขาชื่นชอบ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ธุรกิจได้รับผลตอบรับในเชิงบวกทั้งในด้านยอดขาย การรับรู้ที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

งานวิจัยของ Meta พบว่า ครีเอเตอร์จะยังคงมีบทบาทสำคัญในประสบการณ์การช้อปปิ้งอยู่ โดยผู้บริโภคมากกว่าครึ่งได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องการซื้อจากเหล่าคนดังและครีเอเตอร์ และ 45% ของนักช้อปออนไลน์ทั่วโลกยังกล่าวด้วยว่า ตนต้องการซื้อสินค้าที่ครีเอเตอร์เป็นผู้โปรโมทบนโซเชียลมีเดียโดยตรง ทั้งนี้ เมื่อไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือและประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ เช่น ร้านค้าในกลุ่มและไลฟ์ช้อปปิ้งสำหรับครีเอเตอร์ เพื่อช่วยรองรับพฤติกรรมดังกล่าวของนักช้อป อีกทั้งยังช่วยให้ครีเอเตอร์จำนวนมากขึ้นได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้าที่ตนแนะนำบน Instagram อีกด้วย โดยในขณะที่ครีเอเตอร์ยังคงมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็หวังว่าจะได้เห็นการลงทุนอย่างต่อเนื่องของทั้งอุตสาหกรรมในการเชื่อมคอมมูนิตี้และการซื้อขายสินค้าเข้าด้วยกัน รวมไปถึงการลงทุนในโปรแกรมการสร้างรายได้ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เช่น การตลาดแบบแอฟฟิลิเอต

ในช่วงแรกของการระบาดใหญ่ทั่วโลก เราได้รับฟังเสียงจากผู้ค้าปลีกที่ใช้งานประสบการณ์ต่างๆ อย่างไลฟ์ช้อปปิ้งในการเชื่อมต่อกับลูกค้าเมื่อธุรกิจของตนจำเป็นต้องปิดหน้าร้าน ซึ่งถึงแม้ว่าธุรกิจอาจจะกลับมาเปิดหน้าร้านอีกครั้ง แต่เราก็คาดหวังว่าแบรนด์ต่างๆ จะยังคงทดลองใช้ไลฟ์ช้อปปิ้งและร่วมมือกับครีเอเตอร์ในฐานะผู้จัดงานกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้าและคอมมูนิตี้ของตนเองต่อไป

ผู้คนเลือกซื้อสินค้าที่สะท้อนค่านิยมของตนเอง

เมื่อต้องช้อปปิ้งกับธุรกิจโดยตรง ผู้บริโภคทั่วโลกเกินครึ่ง (56%) กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญมากๆ คือการที่แบรนด์ที่ตนเลือกซื้อนั้นสนับสนุนค่านิยมเดียวกันกับที่ตนเชื่อมั่น โดยเราคาดการณ์ว่านักช้อปจะยังคงให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืนและต้องการข้อมูลจากแบรนด์ที่จะช่วยให้ตนเข้าใจค่านิยมของแบรนด์มากยิ่งขึ้น

เทรนด์หนึ่งที่เราจับตามองอย่างใกล้ชิดก็คือแฟชั่นวินเทจที่เป็นของมือสองราคาประหยัด ซึ่งรวมไปถึงพฤติกรรมการช้อปปิ้งที่ "เน้นสินค้ามือสอง" ที่ได้รับความนิยม ด้วยปัญหาการขาดแคลนห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการซื้อสินค้าในแบบยั่งยืนของลูกค้า เราจึงเชื่อว่านักช้อปจะยังคงมองหาทางเลือกอื่นๆ ในการตามหาสินค้ามือสองที่ตนต้องการต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อในร้านขายต่อสินค้าในราคาประหยัดบนโลกออนไลน์ หรือการช้อปปิ้งบน Instagram, Marketplace หรือกลุ่มบน Facebook โดยเฉพาะ ซึ่งในสหรัฐฯ จำนวนรายการสินค้าใหม่ที่เป็นเสื้อผ้าที่มีการลงขายบน Marketplace โดยเฉลี่ยในแต่ละวันนั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในเดือนมกราคม เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

แบรนด์ต่างๆ เริ่มสำรวจความเป็นไปได้ของการช้อปปิ้งในเมตาเวิร์ส

แม้ว่าเราจะยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเข้าใจศักยภาพของการซื้อขายในเมตาเวิร์ส แต่เราก็เชื่อว่าแบรนด์ต่างๆ จะเริ่มทดลองใช้ประสบการณ์การซื้อขายบนโซเชียลที่จะช่วยให้เห็นภาพว่าการช้อปปิ้งในเมตาเวิร์สจะเป็นอย่างไร

เมื่อเราพูดถึงสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน Augmented Reality (AR) และไลฟ์ช้อปปิ้งคือตัวอย่างของเส้นทางเริ่มต้นสู่เมตาเวิร์ส ประสบการณ์ใช้งาน เช่น "ลองใช้งานบน AR" ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถดูตัวอย่างสินค้าต่างๆ เช่น เครื่องประดับและสินค้าด้านความงามก่อนที่จะตัดสินใจซื้อได้ นอกจากนี้ ไลฟ์ช้อปปิ้งยังช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้เราได้เชื่อมต่อกับแบรนด์และนำประสบการณ์การช้อปปิ้งในร้านค้าที่ลูกค้าแต่ละคนได้รับมาปรับใช้กับการช้อปปิ้งออนไลน์ได้อีกด้วย ผู้บริโภคต่างเริ่มชื่นชอบไลฟ์ช้อปปิ้งกันมากขึ้น โดย 47% ของนักช้อปออนไลน์กล่าวว่า ตนจะเลือกซื้อสินค้าโดยตรงจากวิดีโอถ่ายทอดสดจากแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่กำลังต้องการความสำเร็จ

หนึ่งในหลายๆ ตัวอย่างที่ฉันชอบเกี่ยวกับเทรนด์นี้คือ Zox แบรนด์ผู้ผลิตสายรัดข้อมือทำจากพลาสติกรีไซเคิลพร้อมเขียนข้อความสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขายสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง โดยขณะที่ทดสอบฟีเจอร์ไลฟ์ช้อปปิ้งในโปรแกรม Live Shopping Fridays ของเราไปเมื่อช่วงต้นปี 2021 Zox สามารถขายสินค้าในวันเดียวกันกับที่แบรนด์จัดงานกิจกรรมไลฟ์ช้อปปิ้งไปได้ถึง 28,392 ดอลลาร์ด้วยกัน

เราจะเห็นได้ว่าแบรนด์ด้านความสวยความงามเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการใช้งานฟีเจอร์ "ลองใช้งานบน AR" ตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกและประสบความสำเร็จมากที่สุด นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมงานกับแบรนด์ด้านความงามชั้นนำหลายๆ แบรนด์ไม่ว่าจะเป็น NARS, Mac และ Maybelline เพื่อผสานฟีเจอร์ "ลองใช้งานบน AR" เข้ากับร้านค้าและประสบการณ์การโฆษณาของแบรนด์อีกด้วย โดยในระหว่างที่เกิดกระแสการก้าวไปสู่เมตาเวิร์สอย่างต่อเนื่อง เราก็คาดหวังว่าแบรนด์ความงามและแฟชั่นต่างๆ จะยังคงเป็นผู้สร้างนวัตกรรมรายแรกๆ ต่อไป

ผู้บริโภคทั่วโลกส่วนใหญ่ (79%) กล่าวว่า ประสบการณ์ที่บริษัทมอบให้นั้นมีความสำคัญพอๆ กับสินค้าและบริการของบริษัทเลยทีเดียว เราจึงหวังว่าจะได้เห็นวิธีการต่างๆ ที่แบรนด์จะใช้สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ๆ โดยใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการซื้อขายบนโซเชียลที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อไปในระหว่างที่พวกเราเตรียมพร้อมสำหรับการช้อปปิ้งในอนาคต